วันที่ ๒๘ มกราคม ปี ๒๕๕๙
กุ๊กมอนิ่งครับไดซัง(Twitter:ไดซัง(คนญี่ปุ่น@กทม)@daijirok_th)จริงๆแล้วตอนนี้อยู่ที่ญี่ปุ่นแต่กลับเมืองไทยต้นเดือนหน้านะครับ^^
เมื่อก่อนตอนทำงานที่ออฟฟิศในกรุงเทพฯ ทุกเสาร์อาทิตย์ผมทำงานส่วนตัวหลายๆที่เช่นร้านกาแฟห้องสมุดเป็นต้น เพราะผมเป็นคนที่ทำงานที่บ้านไม่ค่อยได้ครับ ชอบเปิดทีวี(อย่าบอกว่า”งั้นปิดเลยสิ”นะครับ^^;) ชอบพักนอนบนเตียน ที่บ้านมีสิ่งที่ทำให้ผมขี้เกี่ยจเยอะมากครับ
ผมก็เลยเช็คอีกรอบหนึ่งว่า ทำงานที่ไหนทีตอนอยู่ที่กรุงเทพฯนะครับ^^ สำหรับผม ผมว่ามี5ที่ครับ
1. ห้องตัวเอง
2. Launge
3. ห้องสมุด
4. ร้านกาแฟ
5. โคเวิร์คกิ้งสเปซ(CoworkingSpace)
อาจจะบางคนมีมากกว่านี้ เช่นห้องของเพือนหรือบ้านคุณยายอะไรทุกอย่างแต่สำหรับผมน่าจะมีแค่นี้ครับ^^ แล้วผมเช็คว่ามีข้อดีข้อเสียอะไรสำหรับผมนะครับ
1. ห้องตัวเอง
ข้อดี
มันฟรีและอยู่สบายที่สุดไม่ต้องไปไหนทำอะไรก็ได้ จริงๆแล้วสถานที่ดี่สุดครับ^^
ข้อเสีย
สบายเกินไปT-T ผมทำงานไม่ค่อยได้เพราะไม่มีคนอื่นมีแต่สิ่งที่ทำให้ผมขี้เกี่ยจ แต่ถ้าคนที่ทำงานได้ที่บ้านก็สถานที่ดี่สุดครับ^^
2. Premium Launge ของบัตร Credit
ข้อดี
ค่าเข้าฟรี มีเครื่องดืมฟรี มีwifi
ข้อเสีย
ต้องมีบัตรCredit อยู่ได้แค่ไม่เกิน2ชั่วโมง บางที่ไม่จำกัดแต่เกรงใจด้วย ไม่ค่อยเยอะในกรุงเทพฯ
เช่น
AEON Platinum Lounge – 4Flr Central World
JCB Lounge at Amarin Plaza
3. ร้านกาแฟ
ข้อดี
มีหลายที่ในกรุงเทพฯ เลือกได้สถานที่บรรยากาศที่เราชอบ
ข้อเสีย
ต้องจ่ายเงินซื้อเครื่องดืม ต้องเสียอย่างน้อยมากกว่า50B และอยู่นานก็เกรงใจโดยเฉพาะถ้าลูกค้าเยอะ บางที่เสียงดัง บางที่ไม่มี wifi หรือไม่ใช่ฟรีหรือช้ามาก
เช่น
Starbucks (Thailand): มีหลายที่
Au bon Pain Thailand: Healthy
Fu5 Cafe: เปิด24ชั่วโมง
เป็นต้น
4a. ห้องสมุดฟรี
ข้อดี
ค่าเข้าฟรี อยู่นานได้
ข้อเสีย
ต้องเอาน้ำไป ส่วนใหญ่ไม่มีwifi บางทีไม่มีพลั๊กด้วย ไม่ค่อยมีในกรุงเทพฯ
เช่น
Library of Japan Foundation in Bangkok (อโศก)
National Library of Thailand (ถนนสามแสน)
4b. ห้องสมุดเสียเงิน
ข้อดี
อยู่นานได้ มีน้ำเปล่า มีwifi มีแต่คนอ่านหนังสือหรือทำงาน ไม่ค่อยเสียงดังมาก
ข้อเสีย
ต้องเสียเงินแต่ไม่แพงมาก(ปีละไม่เกิน1,000B)
เสาร์อาทิตย์นักเรียนเยอะ ถ้าไปช้าไม่มีที่นั่ง
เช่น
TK Park(Central World ชิดลม)
Thailand Creative & Design Center(Emporium พร้อมพงษ์)
5. โคเวิร์คกิ้งสเปซ (Coworking Space)
ข้อดี
มีWifi มีเครื่องดืม ส่วนใหญ่มีแต่คนทำงานส่วนตัวแบบเล็กๆ ค่าสมัครแพงก็คือคนที่ไม่มีค่อยมีเงินไม่มาเลยครับ^^;
ข้อเสีย
ต้องเสียเงิน(เดือนละไม่เกินประมาณ2,000-3,000B)แพงครับ
เช่น
Hubba (เอกมัย)
The Hive (ทองหล่อ)
Forward (พร้อมพงษ์)
สรุป
สุดท้ายผมเลือกที่ทำงานเป็นห้องสมุดที่ต้องเสียเงินชื่อ TCDC ครับ เพราะ TCDC มีห้อง Premium ที่มีกาแฟฟรี สาวๆสวยๆเยอะ^^ ไม่แพงมากนะครับ
ที่ผมสมัครสมาชิกไว้ที่TCDCคือสมาชิกSiliverครับ ปีละ3,000Bแต่ถ้าสมัคร2ปีก็ราคา4,500Bครับ ก็คือเดือนละแค่187.5Bเองครับ555 ผมว่าถูกมากนะครับ แล้วถ้าสมัครเป็นธรรมดาก็ปีละ600บาท เดือนละ50บาทครับ มันค่าโดยสารแพงกว่าแน่ครับ555
แต่ TCDC หยุดทุกวันจันทร์และสิ้นปีกับวันสงกรานต์ เมื่อก่อนผมก็ต้องทำงานที่ออฟฟิศก็เลยไม่ต้องคิดมากเรื่องวันหยุด เพราะวันจันทร์ผมต้องไปทำงานอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ผมลาออกจากบริษัท ต้องคิดว่าวันจันทร์ไปไหนดี… แค่วันเดียวในสัปดาห์ไปห้องสมุดฟรีหรือร้านกาแฟจริงๆแล้วเป็นวันหยุดเลยก็ได้เนอะครับ^^
ผมว่าถ้าคุณทำงานที่บ้านไม่ได้เหมือนผมและอยากประหยัดเงิน ผมแนะนำทำงานห้องสมุดนะครับ ถ้าไม่ต้องการWifi ห้องสมุดฟรีและไม่ต้องการWifiก็ห้องสมุดเสียเงินดีกว่าครับ^^
ปล.
ตอนนี้ผมอยู่ที่ญี่ปุ่นและผมใช้โคเวิร์คกิ้งสเปซที่ญี่ปุ่นอยู่ครับ เดือนละ10,000เยนก็คือประมาณ3,000บาทครับ ห้องสมุดแถวบ้านญี่ปุ่นผมเอาคอมพิวเตอร์ไม่ได้ขี้เหนียวมากเลยครับ>_< แต่เพิ่งรู้สึกความแตกตางกันของโคเวิร์กกิ้งสเปซกับห้องสมุดได้ครับ วันหลังผมเขียนเรื่องนี้นะครับ^^
บล็อกนี้อัพเดตทุกวัน7โองเช้านะครับ เจอกันพรุ่งนี้นะครับ^^
ข้อความทั้งหมด