スポンサーリンク

ได: อยู่ที่กรังเทพฯ ทำงานที่ไหนดี? 2 – โคเวิร์คกิ้งสเปซ

スポンサーリンク

วันที่ ๓๐ มกราคม ปี ๒๕๕๙

กุ๊กมอนิ่งครับไดซัง(Twitter:@daijirok_th)คนอีก3วันกลับเมืองไทยนะครับ^^

เมื่อก่อนยังทำงานที่บริษัทญี่ปุ่นในกรุงเทพฯ ผมทำการของตัวเองที่ห้องสมุดชื่อ TCDC(Thailand Creative & Design Center) นะครับ ก่อนผมตัดสินใจว่าทำการที่ TCDC ผมก็ลองไปร้านกาเฟ โคเวิร์คกิ้งสเปซ หลายที่แต่สุดท้ายผมเลือก TCDC ครับ เรื่องนี้ผมเขียนที่บททความนี้นะครับ↓

เรื่องที่คนญี่ปุ่นตกใจเมื่อทำงานที่เมืองไทย1 - เงินเดือน -
...

แต่ปี2016ลาออกจากบริษัทและกลับไปญี่ปุ่นแล้วผมทำการที่โคเวิร์คกิ้งสเปซแถวบ้านญี่ปุ่นชื่อMoccoเพราะพอดีห้องสมุดแถวบ้านไม่มีWifiเล่นคอมไม่ได้และห้ามเรียนหนังสือด้วย… ทันสมัยมากเลยของรัฐแต่สงสัยไม่อยากประชาชนฉลาดมั้งครับT-T ไม่น่าเชื่อครับ

ผมก็เลยหาโคเวิร์คกิ้งสเปซ(Coworking Place)แถวบ้านและสมัครสมาชิคหนึ่งเดือนราคาประมาณ3,000Bเลยครับ ราคานี้คือราคาเท่ากันกับTCDCสมาชิคSilver1ปีนะครับ>_< แต่ก็ช่วยไม่ได้ไม่มีที่อื่นแต่บรรยากาศดีก็จริงครับ แค่หนึ่งเดือนอยู่ที่ญี่ปุ่นผมก็อยู่ที่บ้านไม่ค่อยมีค่าเสียจ่ายอยู่แล้ว ตอนแรกผมคิดว่ามันไม่ค่อยต่างกันกับห้องสมุดครับ

20160130a_mocco_fbFacebook: Mocco Coworking

แต่โคเวิร์คกิ้งสเปซมีจุดที่ต่างกันกับห้องสมุดเยอะ อาจจะไม่ใช่ว่าทุกโคเวิร์คกิ้งสเปซที่ญี่ปุ่นมันเหมือนกันกับที่ผมไปแต่ที่ผมไปอยู่ก็คือมีข้อดีหลายจุดครับ เพราะถ้าในโตเกียวต้องสู้กับคู่แข็งต้องพยายามมากไม่เหมือนกันกับบ้านนอกแบบแถวบ้านผมครับ^^;

ข้อดี

1.มีเครื่องดืมเยอะ
2.สแคนฟรี
3.มีคอมพิวเตอร์Mac
4.มีขนมกับข้าว(ไม่ใช่ฟรี)
5.มีหนังสือเกี่ยวกับเว็บและธุรกิจ
6.มีคนทำงานแบบผม
7.มีอุปกรณ์หลายอย่างที่ใช้ได้ฟรี

1.มีเครื่องดืมเยอะ

ญี่ปุ่นบ้านนอกก็เป็นแบบนี้ครับ ไม่ค่อยมีคนขี้โกง ไม่มีคนเอากลับบ้านครับ555 ก็ดีนะครับ ลองดืมได้หลายอย่างครับ^^
20160130a_drink

2.สแคนฟรี

ผมชอบตัดหนังสือและสแคนทุกหน้าเป็นPDF แล้วก็เก็บไว้ในiPad เพราะคนแบบผมไปข้างนอกบ่อยเอาหนังสือไปก็หนักมาก หนังสือสำหรับเว็บก็ยิ่งหนักหนาด้วยก็เลยเก็บไว้ในiPadดีกว่าครับ

3.มีคอมพิวเตอร์Mac

ผมก็มีคอมพิวเตอร์แต่ไม่มีCD-Driveครับ บางทีหนังสือแถมCDด้วย ผมอยากเก้บข้อมูลในCDไว้ที่MacBookผมครับ มันสะดวกดีมากครับ
20160130a_mocco_inside1

4.มีขนมกับข้าว(ไม่ใช่ฟรี)

เวลาหิวก็ซื้อได้ครับ สำหรับผมไม่ต้องฟรี แค่ซื้อได้สะดวกก็พอครับ

5.มีหนังสือเกี่ยวกับเว็บและธุรกิจ

คนที่ทำงานที่โคเวิร์คกิ้งสเปซ ส่วนใหญ่ทำงานเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตครับ หนังสือก็มีแต่เรื่องแบบเว็บ ธุรกิจ Design มีหนังสือที่น่าสนใจมากเยอะแยะสำหรับผมครับ^^
20160130a_books

6.มีคนทำงานเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตคนที่ Start up เยอะ

โคเวิร์คกิ้งสเปซที่ผมไปอยู่บางคนมาอ่านหนังสือเรียนหนังสือแต่มีคนทำงานแบบคนเดียวในอินเตอร์เน็ตด้วย น่าจะมีโอกาศที่เป็นเพื่อนและคุยบ้างช่วยกันได้ด้วยครับ

7.มีอุปกรณ์หลายอย่างที่ใช้ได้ฟรี

มีหลายอย่างเช่นกรรไกรไม้บรรทัดมีไดชาร์จด้วยครับ^^
20160130a_goods

ข้อเสีย

1.ค่าสมาชิคแพง

โคเวิร์คกิ้งสเปซที่ญี่ปุ่นส่วนใหญ่ค่าสมาชิคเดือนละ3,000 – 6,000B นะครับ ถ้าเปลี่ยบเที่ยบกับห้องสมุดก็แพงมากเลยครับ แล้วผมหาข้อมูลโคเวิร์คกิ้งสเปซของไทยก็ราคา3,000 – 4,000B ไม่ค่อยต่างกันมากแม้ว่าค่ากรองชีพต่างกัน แต่ถ้าพูดถึงอีกนัยหนึ่งคนที่จ่ายค่าสมาชิคแพงแบบนี้เข้าไม่ได้ อาจจะปลอดภัยและเหมือนประกันเลยนะครับ^^

ปล.

ตอนนี้ผมกำลงสนใจโคเวิร์คกิ้งสเปซที่เมืองไทยอีกแม้ว่าราคาแพง นี่คือโคเวิร์คกิ้งสเปซที่น่าจะดังที่สุดในเมืองไทยชื่ออับบ้า(Hubba)ครับ น่าสนใจนะครับ อืม พันกงานหรือลูกค้า? หน้าสนใจมากครับ พูดเล่นครับ555

20160130a_hubba_fbFacebook: Cowering Space “Hubba”

บล็อกนี้อัพเดตทุกวัน7โมงเช้า เจอกันพรุ่งนี้7โมงเช้านะครับ^^

ข้อความทั้งหมด

タイトルとURLをコピーしました