สวัสดีครับ ไดซัง(FB:ไดซัง-คนญี่ปุ่นรักเมืองไทย-)คนที่อยากใช้เงินเพื่อซื้อของเกียวกับเครื่องไฟฟ้ามากกว่าพักโรงแรมราคาแพงครังนะครับ
ต้นเดือนกรกฎาคมนี้ไปเที่ยวโตเกียว ตอนนั้นผมลองพักโรงแรมแคปซูลเป็นครั้งแรกในชีวิตผม ชื่อโรงแรมแคปซูล Dandy นะครับ
ผมดูเว็บแล้วจุดแข็งของโรงแรมแคปซูลนี้คือที่อาบน้ำขว้างมากแบบเป็น Onsen ด้วยนะครับ ผมก็คิดว่าหลังที่จะไปวิ่งแถวสวนอุเอโนะและพระราชวังโตเกียวอิมพีเรียล เข้า Onsen ก็ดีมาก ราคาก็ไม่แพง ไปวัดAsakusa ก็ไม่ไกล่ด้วย ผมก็เลยเลือกโรงแรมนี้นะครับ
ว่าแต่ว่าบ้านผมคันไซก็คือแถวโอซาก้า ห่างกันจากโตเกียวก็ประมาณ 600km ครั้งนี้ผมใช้รถทัวร์ตอนกลางคืนนะครับ

จองแรงแรม
ครั้งนี้ผมใช้ Hotels.com นะครับ เพราะผมสะสมแคะแนนของ Hotels.com ด้วย แต่เช็คราคาของ Official Web และเว็บต่างๆด้วย สุดท้ายก็เลือก Hotels.com ครับ ปกติผมก็เช็ค Agoda ด้วยครับ
ราคาประมาณ Standard:700B Deluxe:1,000B นะครับ
เช็คราคา Capule Hotel Dandy ที่: Booking.com, Hotels.com, Agoda
โรงแรมนี้มีห้อง3แบบ Standard Superior และ Deluxe ผมพัก2วันก็เลยจองแบบ วันแรกเป็น Deluxe และวันที่สองเป็น Standard นะครับ ความต่างกันของพวกนี้คือ คุณภาพของผ้าปูนที่นอนและผ้าและมอนและแค่Deluxe ใช้ห้อง Business Center นะครับ^^
ไปโรงแรมแคปซูล
ตอนเช้ามากถึงเมือง Shinjuku และไปห้าง Yodhobashi Akiba ถึงโณงแรมก็ประมาณบ่าย2แล้วครับ ผมก็รู้ว่าล็อบบี้โรงแรมอยู่ชั้น6แต่หาตึกไม่เจอ หาไม่ง่ายครับ ก็คือข้างๆ “Cercle K” มีทางเข้าเล็กๆ ครีบ
มีป้ายเขียนว่า “ゆ” (Yu: ความหมายน้ำร้อน)นะครับ ข้างๆป้ายมีทางเข้าครับ
Check in โรงแรมแคปซูล ดันดี้
ใช้ลิฟท์และขึ้นไปชั้น6ก็จะมีล็อบบี้เลยครับ
เก็บรองเท้าที่ตู้เก็บรองเท้าและเอากุญแจตู้ไปล็อบบี้และเช็คอินครับ
ที่เช็คอินมีคนเกาหลี2คนถือกระเป๋าเดินทางใหญ่ๆ สงสัยไปดูวัดAsakusaหรือเปล่า? เมื่อก่อนโรงแรมแคปซูลก็คือสำหรับคนที่ทำงานในเมืองที่กลับบ้านไม่ได้เพราะไม่ทันรถไฟวันสุดท้าย (ที่ญี่ปุ่นTaxiแพงมาก) แต่ผมเคยอ่านอินเทอร์เน็ตว่าสมัยนี้สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่อยากเสียเงินสำหรับโรงแรมด้วย แต่มันจริงด้วยนะครับ แล้วพูดตรงๆผมก็ส่วนหนึ่งคนแบบนี้ด้วยครับ555
คนเกาหลีอยู่ด้านหน้าผมให้ฝากกระเป๋าเดินทางที่ล็อบบี้นะครับเพราะกระเป๋าเดินทางใหญ่ๆใส่แคปซูลไม่ได้ครับ
ตอนผมเช็คอินก็คนที่Receptionก็ถามว่าห้องข้างบนหรือข้างล่าง ผมก็คิดว่าวันแรกข้างบนและวันที่สองข้างล่าง ผมก็เลยลองเลือกข้างบนก่อนครับ ผมก็ฝากกุญแจตู้รองเท้าและรับกุญแจลอคเกอร์ เขาก็บอกว่าในลอคเกอร์มีเสื้อกับผ้าเช็ดตัวแล้วเวลาอยู่ในแรงแรมนี้ก็ใส่เสื่อนั้นด้วย แล้วผมรับใบ่เครื่องเดิมฟรีแก้วหนึ่ง น่าจะสำหรับห้องDeluxeนะครับ คนReceiptionก็พูดแบบโอเคไม่เสียมารยาทเลยเวลาผมเช็คอินก็มีลูกค้าใหม่2คนครับ
หลังเช็คอิน
ล็อบบี้ชั้น6 แต่ชั้นสำหรับห้อง Deluxe อยู่ชั้น8ครับ
ใช้ได้ทั้งบันไดและลิฟท์สำหรับขึ้นชั้น8 ผมใช้บันไดและขึ้นไปชั้น8 ชั้น8มีลอคเกอร์แบบบางๆ ประมาณสูง2m กว้าง20cm ผมก็ใช้กุญแจทีรับที่ล็อบบี้และเปิดลอคเกอร์
ด้านในมีผ้าเช็ดตัวใหญ่กับเล็ก และเสื้อแล้วก็ก่างแก่งส้นๆครับ ผมเอากระเป๋าเป้ใหญ่ๆก็เลยใส่กระเป๋าที่ลอคเกอร์ไม่ได้ ผมก็เช็คแคปซูลแล้วแต่ไม่มีกุญแจเลยครับ
ผมก็ช่วยไม่ได้ ต้องออกของจากกระเป๋าและใส่ที่ลอคเกอร์ทั้งหมดเลยครับ คอคเกอร์มันบางแต่ไส่ได้มากกว่าผมคิดเลยครับ
ไปอาบน้ำ
ตั้งแต่เมื่อคืนผมก็ยังไม่ได้อาบน้ำเพราะผมก็ใช้รถทัวร์ตอนกลางคืนถึงโตเกียววันนี้ ตัวเหนียวมากเลย ผมก็เลยไปที่จุดแข็งของโรงแรมนี้ก็คือไปOnsenนะครับ Onsen อยู่ที่ชั้น7 ลง1ชั้น แล้วที่นั่นมีห้องสำหรับนวดด้วย
แล้วผมไปที่ถอดเสื้อก็มีลอคเกอร์สำหรับมีค่า(Security Box) แต่กระเป๋าเงินกับมือถือเก็บที่ลอกเกอร์ตัวเอง ผมก็เลยขึ้นไปเอากระเป๋าเงินกับมือถือและใส่SecurityBoxครับ ลอคเกอร์นี้ใส่รหัส4ตัวเองแจะเปิดประตู ก็คือคนที่เปิดได้ก็คือคนที่รู้รหัสตั้งเอง ระวังลืมรหัสครับ
ที่ Onsen ไม่ค่อยมีคนเพราะว่าจะตอนนี้เวลาบ่ายสองกว่า มันดีมากสุดชื่นเลยครับ ข้างนอกก็มีที่อาบน้ำด้วยแต่ไม่ให้เห็นจากข้างนอก มันก็ดีมากครับ
แล้วก็ในที่อาบน้ำมี ไม้เพลงฟัง(ใช้ครั้งเดียวทิ้ง) และขัมพู BodySoap ก็คือมีทุกอย่างที่ต้องการเลย ไม่ต้องเอาอะไรไปเลยครับ
ข้างที่เปลี่ยนเสื้อก็มีไม้เพลงฟัง(ใช้ครั้งเดียวทิ้ง) Lotion สำหรับผม เครื่องตั้งผมแบบ Gel Wax มีหลายอย่างเลยครับ นี่ก็ไม่ต้องเอาอะไรไปเลยครับ
อาบน้ำเสร็จก็เอาของกระเป๋าเงินกับมือถือจาก Security Box และขึ้นไปชั้น8 ผ้าเช้ดตัวก็ใส่ตะกร้าสำหรับผ้าเช็ดตัวที่ใช้แล้ว
ใส่เสื้อตัวเองและเอากระเป๋าลงไปชั้น6ล็อบบี้ บอกคนReceiptionว่าอยากไปข้างนอก ผมก็ฝากกุญแจลอคเกอร์และรับใบกระดาษที่เขียนไว้เบอร์แคปซูลและกุญแจตู้รองเท้า
ผมก็เดินเล่น Ameyoko แถวผ สถานี Ueno ครับ
แล้วแถวนั้นมีร้านผลไม้เยอะ มันมีตั้งแต่สมัย Edo ด้วยครับ มันซื้อง่ายๆแบบเมืองไทย ลองซื้อก็ดีนะครับ รถชาติอร่อยมากแต่แพงกว่าเมืองไทยนะครับ^^;
สับปะรดชิ้นเดียวก็100เย็น(ประมาณ30กว่าบาท)
Melon Yubari (Melon สีส้ม) ก็200บาท (60กว่าบาท) แต่โดยฉะเพราะ Melon Yubari มันอร่อยมากไม่เหมือนกันกับแคนตาลูปไทยเลย ผมอยากให้ลองดูนะครับ มันหวานมากครับ
เรื่องต่ออัพเดตพรุ่งนี้นะครับ^^
เกียวกับโรงแรม
ชื่อโรงแรม:โรงแรมซาวน่า แอนด์ แคปซูล ดันดี – เฉพาะผู้ชาย – โตเกียว
ที่อยู่:6F, Egg Building, 2-6-11, Ueno, Taito, โตเกียว, Tokyo-to, ญี่ปุ่น
โทร:+81-3-3839-8100
เว็บไซท์(ภาษาญี่ปุ่น):http://www.u-excellent.com/dandy/index.html
ราคาประมาณ Standard:700B Deluxe:1,000B นะครับ
เช็คราคา Capule Hotel Dandy ที่: Booking.com, Hotels.com, Agoda
เกียวกับโรงแรม(ภาษาญี่ปุ่น)
ホテル名:サウナ&カプセルホテル ダンディ
住所:東京都台東区上野2-6-11 エッグビル6F
電話:03-3839-8100
最寄駅:JR上野、他6駅
ホームページ:http://www.u-excellent.com/dandy/index.html
ข้อความทั้งหมด
ไม้เพลงฟัง(ใช้ครั้งเดียวทิ้ง)….หมายถึงอะไรคะ
ภาษาอังกฤษไดซังเรียกว่าอะไร
ที่ผมอยากจะบอกว่า
ไม้เพลงฟัง(ใช้ครั้งเดียวทิ้ง) = disposable teethbrush
นะครับ
ไดซังคะ toothbrush เขียนและเรียกเป็นภาษาไทยว่า “แปรงสีฟัน” ค่ะ 😀