บทความนี้คือบทความต่อของเรื่องนี้ครับ

ออกจากสถานีรถไฟ JR Onomichi ตอน08.40น. ตอนนี้อยู่ร้านไอติมที่เกาะอิคุชิ(เกาะที่3) เวลาก็12.40น. แล้ว กินไอติมแล้วปั่นจักรยานต่อครับ
ร้านไอติม”ดลเชะ:Dolce”อยู่ที่นี่นะครับ↑
ตอนนี้ญี่ปุ่นก็ฤดูร้อน อากาศก็ไม่ค่อยต่างกันกับเมืองไทย แล้วเห็นต้นคล้ายๆกับมะพร้าวก็รู้สึกเหมือนอยู่ที่เมืองไทยเลยนะครับ^^
อาหารกลางวัน
ปั่นต่อแล้วเห็นร้านใหญ่ๆกับ Rental Cycle Station ริมแม่น้ำ ตอนนี้บ่ายโมงแล้วผมก็เลยคิดว่าจะกินข้าวกลางวันนะครับ
พอดีถ้าคนที่มากับลูกและใช้จักรยานที่เช่า วางจักรยานที่นี่และนั่งรถเมล์กับก็ดีนะครับ ผมว่า
กินข้าวเสร็จปั่นต่อเลยครับ😉 #ชิมานามิไคโด #บรอมตัน #ญี่ปุ่น pic.twitter.com/eYu49aZ8lO
— ไดซัง(คนญี่ปุ่น@กทม) (@daijirok_th) August 20, 2016
อาหารกลางวันผมคือ ข้าวหน้าหมูทอดญี่ปุ่น(Katsudon)กับเบียร์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์(None Alcohole Beer)นะครับ ที่ญี่ปุ่นตอนปั่นจักรยานก็ห้ามกินแอลกอฮอล์ โดนจับได้ครับ ระวังนะครับ
ว่าแต่แม้ว่าอยู่รมทะเล ไม่มีอาหารปลาก็เสียดายมากครับร้านนี้…
กนิอาหารเสร็จก็ปั่นจักรยานต่อ ปั่นนิดหน่อยก็เริ่มเห็นสะพานต่อไปนะครับ^^
แต่สะพานที่ไม่ค่อยต่างกันกับสะพานที่ผ่านมา รูปแบบเหมือนสะพานพระราม8นะครับ
ว่าแต่เกาะนี้สถานที่แรกที่สร้างLemonนะครับ เขาบอกแบบนี้ครับ
สะพานนี้(สะพานที่3ชื่อสะพานทะทะระ)ก็วิวสวยงามมากเลยครับ^^
แต่สะพานนี้มีอะไรพิเศษนะหนึ่งนะครับ
บนสะพานมี Tatara Naki Ryu นะครับ ป้ายก็เขียนแต่ภาษาญี่ปุ่น ถ้าถึงที่นี่ก็ตบมือนะครับ ได้ยินเสียงดังๆมากครับ นอกจากตบมือร้องดังๆหรือตีไม้ที่วางไว้ก็ดีครับ
นี่คือที่ผมทำเองครับ แล้วถ้าร้องเพลงดังๆจะเป็นยังไง? มาที่นี่ลองเองนะครับ^^
ถึงสะพานทะทะระนี้ก็คืออีก38kmถึงเมืองImabariนะครับ
ระยะทางทั้งหมดคือ ประมาณ75km ก็คือ ผมปั่นมาประมาณครื่องแล้วนะครับ^^
ถ้าพูดถึงแผนที่นี้ก็ตอนนี้อยู่ที่③Tatara Ohashiนะครับ จากแผนที่ก็บอกได้ว่าปั่นมาประมาณครึ่งแล้วครับ
เกาะ ออมิ ชิมะ (Omishima):เกาะที่4
ข้ามสะพานที่4 ทะทะระ ก็ถึงเกาะออมินะครับ จังหวัดก็เปลียนเป็นจังหวัดเอฮิเมะ(Ehime)จากฮิโระชิม่า(Hiroshima)แล้วนะครับ
ข้ามสะพานแล้วก็ทางที่ลงไปด้านล้าง เวลานี้ก็เห็นป้ายเขียนไว้ว่าต่อไปจะมี”Cyclist Sanctuary”นะคตรับ
ถึงด้านล้างก็มีสถานที่ Cyclist Sanctuary นะครับ ไม่รู้ว่ามันอะไรแต่มีหินใหญ่ๆกับของประดับสำหรับวางจักรยาน แต่ยังไงๆสถานที่เมาะกับถ่ายรูปนะครับ^^ ตอนนี้เวลา13.23น.แลล้วนะครับ
ผ่านสถานที่นั้นก็อีกไม่ไกลก็เห็นสะพานที่4ต่อไปชื่อ”สะพานเกาะออมิชิมะ:Omishima Ohashi”นะครับ
สะพานที่5 มันรูปแบบไม่เหมือนกันกับสะพานอื่นครับ ทนนก็ขว้างดีปั่นง่ายนะครับ^^
ดูที่แผนที่ก็เข้าใจง่ายนะครับ เกาะที่4กับที่5มันไม่ค่อยระยะทางมากปั่นนิดเดียวก็ถึงสะผ่านต่อไปนะครับ^^
เกาะที่5 เกาะฮะกะตะ (Hakata jima)
ข้ามสะพานที่5ก็จะถึงเกาะที่5″เกาะฮะตะ”นะครับ เกาะฮะกะตะก็ดังสร้างเกลือนะครับ
ตอนผมเด็กๆก็เห็นโฆษณามันบ่อยมากก็เลยจำได้ครับ
คำว่า “ฮะ คะ ตะ นะ ชิโอะ (ha ka ta no shio)” ความหมายคือ “เกลือ ของ ฮะ คะ ตะ” นะครับ
อันนี้ครับ โฆษณาที่ผมเห็นบ่าย555
ข้ามสะพานก็ทางลงนะครับ ลงแล้วก็เริ่มเห็นโรงงานสร้างเรือใหญ่ๆนะครับ ผมไม่เคยเห็นแต่มันใหญ่จริงๆเท่ดีนะครับ>_<
เจอที่พักแล้ว ผมก็กินไอติมรสชาติ เกลือฮะกะตะกับชาเขียวนะครับ เดินทางนี้มีที่พักเยอะนะครับ สะดวกมากครับ แล้วเห็นสะพานต่อไปด้วยวิวดีนะครับ^^
นีคือตัวการ์ตูนของจังหวัดเอะฮิเมะชื่อ”มิเคียน: Mikyan”นะครับ มันผีของส้มครับ เพราะส้มภาษาญี่ปุ่นว่า “มิคัน: Mikan” มันปั่นจักรยานด้วย
ปั่นอีกนิดหน่อยก็ถึงสะพานที่5 ชื่อ”สะพานฮะคะทะโอชิมะ: Hakata Oshima Ohashi”นะครับ
สะพานนี้ก็ปั่นง่ายเพราะถนนขว้างครับ^^
บนสะพานก็เห็นป้ายว่าอีก25kmก็จะถึงเมืองอิมะบะริ(Imabari) เวลาก็14.53น. แล้ว
จากเริ่มปั่นจักรยานก็ผ่านไป6ชั่วโมง13นาทีนะครับ>_<
ในสะพานก็เพิ่งเห็นป้าย Mobile Stamp Rally นะครับ
ตรงที่ป้ายสีเหลือง มี QR Code นะครับ
แค่ใช้แอปสำหรับอ่าน QR Code ก็จะสะสมแสตม์ปได้ครับ ถ้าสะสมทั้งหมด6สะพาน(ไม่รวมสะพานแรกที่อันตรายสำหรับนักปั่นจักรยาน) ก็จะได้รูปพิเศษนะครับT-T
ผมเองเพิ่งเริ่มจากสะพานที่5ก็เลยสะสมทั้งหมดไม่ได้แล้วครับ เสียใจ
เกาะที่6(เกาะสุดท้าย) ชื่อ เกาะออ (Oo shima)
ข้ามสะพานที6แล้วก็จะถึงเกาะสุดท้ายนะครับ ถ้าพูดถึงในแผนที่ก็เกาะที่เบอร์6สีแดงนะครับ
เกาะนี้คือเกาะที่⑥สีแดงชื่อออชิมะ(Oo shima)ต้องผ่านในกลางๆเกาะและระยะทางก็นานด้วยแล้วสุดท้ายก็จะมีสะพานสุดท้าย สะพานที่⑥ชื่อคุรุชิมะ ไคเคียน ออฮะชิ(Kurushima Kaikyo Ohashi) สะพานยาวที่สุดด้วยครับ>_<
ข้ามสะพานแล้วก็เจอหาดทรายครับ ผมเห็นนักปั่นจักรยานพักด้วยครับ^^
หลังจากนี้ก็มีที่ลาดที่ไม่ชุกเท่าไร แต่ก็ระยะทางยาวมากเลยครับ
ทางนี้เหนื่อยที่สุดสำหรับผม ถนนในเกาะนี้ก็ต้องผ่านที่กลางๆเกาะ ก็คือต้องข้ามภูเขาเตี้ยๆครับ
ขึ้นที่ลาดขึ้นจบก็จะเริ่มลงนะครับ เดินทางสะบายๆและเริ่มเห็นสะพานสุดท้ายด้วยครับ
ที่พักหน้าสะพานสุดท้ายครับ (16.10น.)
ดูแอปสำหรับจักรยานแต่เป็น Error ที่เกาะสุดท้ายนะครับ สงสัยGPSไม่เค้าเพราะว่าผ่านในภูเขาเตี้ยๆ
ขึ้นทางลากสุดท้ายก็ความสูงเท่ากันกับสะพานสุดท้ายแล้ว สะพานนี้ยาวมากไม่เห็นสุดท้ายเลย ดูWikipedia: Kurushima Kaikyo Bridge แล้วเขาบอกสะพานนี้มีระยะทางประมาณ4kmนะครับ>_<
วิวสวยดีนะครับ^^
ที่พักบทสะพานมีป้ายสำหรับอธิบายว่า”เส้นทาง ซิมะนะมิ ไคโด”เป็นยังไงนะครับ แต่ที่พักนี้น่ากลัวเพราะถ้ารถคันใหญ่ผ่านก็สะพานก็จะไหวครับ>_<
บนสะพานมีป้ายว่าอีก8kmจะถึง สถานี JR Imabari นะครับ ก็คือด้าานนี้หล่งสะพานแล้วก็ต้องปั่นอีกนานครับ^^;
ว่าแต่เพิ่งรู้ว่าสะพานนี้คือรูปในโฆษณา 100พฃัส เลยนะครับ^^ สวยดีนะครับ น่าปั่นมากเลย
แต่คนที่ปั่นจริงๆก็จะเห็นแบบนี้นะครับ555>_<
แต่มองจากบนสะพานก็ดูดีคร้ายๆกับโฆษณาทีวีครับ^^
ถึงเส้นสุดท้ายของสะพานนี้ก็ สแกน QR Code สุดท้ายผมก็ได้แต่2สะพานครับT-T แล้วไม่มีแรงที่จะกลับไปสะพานแรกเลยครับ ไว้โอกาศหน้าก็แล้วกันครับ>_<
เมืองอิมะบะริ(Imabari)จังหวัดเอฮิเมะ(Ehime)
ตึ้งแต่ข้ามสะพานสุดท้ายยังมีทางอีกประมาณ8km
ดูแผนที่ก็เข้าใจว่าฟลังข้ามสะพานที่6ก็ยังมีเส้นทางนานนิดหน่อยครับ มีรถก็เยอะขึ้นมาก ผมรู้สึกว่าคนขับรถแถวนี้ไม่ค่อยมีมารยาทแล้วผมเองก็เหนื่อยมากแล้ว ผมว่าต้องระวังที่สุดคือเส้นทางแถวนี้นะครับ
สุดท้ายผมก็ถึงสถานี JR Imabari แล้วตอนเวลา17.40น. นะครับ
ถ้าดูแอปก็ ระยะทางทั้งหมด77km และใช้เวลา9ชั่วโมง12นาทีนะครับ^^
ปั่นจบแล้ว เหนื่อยมากเลยแต่ดีใจครับ😉 #ชิมานามิไคโด #บรอมตัน #ญี่ปุ่น pic.twitter.com/ZymAWwiXOy
— ไดซัง(คนญี่ปุ่น@กทม) (@daijirok_th) August 20, 2016
สรุป
เดินทาง เส้นทางซิมะนะนิไคโค จบแล้วนะครับ ผมก็เป็นห่วงว่าปั่นฤดูร้อนที่ญี่ปุ่นก็เลยร้อน(เดือนสิงหา)มากเหมือนเมืองไทยและใช้จักรยานพับได้แลลลอไม่ใหญ่เท่าไร แต่โชคดีที่ฝนไม่ตกและปั่นได้หมดโดยปลอดภัยครับ
ณ ตอนนี้เดินทางนี้ก็ความหลังที่ดีมากสำหรับผมเลยครับ
แล้วผมแนะนำได้ว่าเส้นทางนี้ดีต่อนักจักรยานมาก เพราะวิวสวยไม่ค่อยมีรถ ถ้ามีลูกอายุสูงกว่าประธมปลายก็ปั่นด้วยกันได้นะครับ แค่ปั่นเส้นเดียวก็ไม่มีปัญหานะครับผมว่า แต่ถ้าอยากไปกลับในวันเดียวมันยากแน่และอันตรายด้วยเพราะว่าเส้นทางมันมืดครับ
ผมเองก็คิดว่าอยากปั่นอีกถ้ามีโอกาศ แต่ครั้งหน้าใช้จักรยานเช่าดีกว่าเพราะมันขี้เกียจเอาไปและเห็น Rental Bike Station แล้วมีจักรยานยี้ห้อดีก็เยอะด้วย
แต่ถ้าใช้จักรยานเช่าก็ต้องตองพักโรงแรมใกล้สถานีเนะครับ^^
ข้อความทั้งหมด